Thursday, September 29, 2011

ศัลยกรรมเกาหลี :: ตัดกราม สไตล์เกาหลี (ในช่องปาก)

ราคา : 45,000 บาท

ปัญหาของรูปหน้าที่เป็นเหลี่ยม ใบหน้าบานกว้าง โหนกแก้มสูง หรือมุมขากรรไกรยื่น ดูแล้วไม่เรียวงาม ถือเป็นเรื่อง น่าหนักใจ เพราะเป็นลักษณะใบหน้า ที่ดูบึกบึนไม่อ่อนโยน น่ามองแต่ทั้งนี้ใช่ว่า จะเป็นเรื่องยากที่จะแก้ไข เพราะ เทคนิคของการศัลยกรรม ตัดกราม สามารถช่วยได้นั่นเองโดยใช้ การผ่าตัด ทั้งแบบ ผ่าตัดลดโหนกแก้ม ตัดแต่งมุมกราม ยึดกระดูกคาง เป็นต้น ทั้งนี้วิธีการผ่าตัดที่ใช้ จำเป็นต้องทำการพิจารณาเป็นรายๆ ไปตามความเหมาะสม ของโครงหน้า แต่ละบุคคล และ ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

การตัดกราม ให้เล็กลงก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้ใบหน้าเปลี่ยนรูปทรงใหม่ได้ โดยจะทำให้หน้าดูแคบเรียว และอ่อนโยนขึ้น การตัดกรามให้เล็กลง สามารถทำได้ทั้งจากภายนอกช่องปากและภายในช่องปาก การตัดแต่งมุมกรามนี้ก็ไม่ใช่การเลื่อนกราม และไม่ต้องมีการจัดฟันร่วมด้วย โดยการตัดแต่งมุมกรามนี้ ถือว่าเป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างง่ายไม่ซับซ้อน ใช้เวลาพักฟื้นไม่นานนัก และได้ผลดี โครงสร้างของใบหน้าส่วนล่าง ที่ทำให้ดูหน้ากว้าง ประกอบด้วยส่วนหลัก ๆ 2 ส่วน คือ ส่วนมุมของกระดูก ขากรรไกรล่างยื่นออก และกล้ามเนื้อที่ใช้เคี้ยวอาหาร ที่เกาะบนส่วนมุมนั้น หนาตัวกว่าปกติ (สังเกตได้จากเวลาเรากัดฟัน แล้วมัดกล้ามเนื้อข้างแก้มนูนขึ้น) ส่วนอื่น ๆ ที่อาจมีผลต่อความกว้าง แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดนี้ ได้แก่ ไขมันแก้ม, ต่อมน้ำลายบนแก้มโต เช่นที่พบในผู้ที่กินเหล้าจัด เป็นต้น ส่วนใหญ่แพทย์จะตัดแต่งเฉพาะ ส่วนที่เป็นกระดูกยื่นเท่านั้น โดยที่ไม่ได้ตัดส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อ และที่สำคัญก็คือ มีรายงานว่า เมื่อตัดแต่งกระดูกที่ยื่นออกไปแล้ว จะทำให้กล้ามเนื้อที่เกาะอยู่หดตัวเล็กลงได้เอง
             
การเตรียมตัวก่อนการผ่า ตัดกราม
 งดยาต้านการ อักเสบ เช่นแอสไพริน บุหรี่ อาหารเสริมบางตัวที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 อาทิตย์ ก่อนการผ่าตัด
 สมุนไพรบางชนิดเช่นอีฟนิ่งพริมโรส ยาวิตามินอีปริมาณสูง ๆ อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัดกราม ประมาณ 3 - 5 วัน
 งดอาหาร งดน้ำ 6 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
 เตรียมลาหยุดงานประมาณ 10 - 14 วัน เนื่องจากการบวมจะดีขึ้นใน 1 อาทิตย์
 ก่อนผ่าตัดควรปรึกษาแพทย์ถึง ปริมาณและขนาดของขากรรไกรที่ต้องการตัด
 ถ้ามีโรคประจำตัว แจ้งให้แพทย์ทราบ

วิธีการผ่าตัดกราม
ก่อนการผ่าตัด แพทย์จะต้องตรวจดูกระดูกขากรรไกร รวมทั้งแพทย์ ต้องตรวจ ภาพเอกซเรย์ ด้วยเพื่อประเมินว่า เมื่อตัดแต่งแล้วจะได้รูปทรงอย่างไร โดยขั้นตอนการผ่าตัดกราม จะใช้ยาสลบ ร่วมด้วย เพื่อไม่ให้คนไข้รู้สึกตัว หรือ เจ็บขณะผ่าตัด ซึ่งวิธีการผ่าตัดคือ ผ่าตัดภายในปาก โดยซ่อนแผล ไว้ บริเวณ ซอกเหงือก ด้านหลังฟันซี่สุดท้ายในปาก ต้องใช้ความชำนาญมาก โดยเครื่องมือพิเศษ ที่สามารถเลื่อยกระดูกที่ต้องการ ตัดแต่งได้ในซอกแคบๆ แต่ในมือของแพทย์ผู้ที่มีประสบการณ์ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากและ เป็นวิธีที่ง่ายปลอดภัย และไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเส้นประสาท ที่เลี้ยงกล้ามเนื้อมุมปากการผ่าตัด ภาย ในช่องปาก จะผ่าตัดโดยผ่าน ซอกเหงือกด้านหลังบริเวณฟันกราม ไปที่มุมกระดูกขากรรไกร และตัดแต่งตามต้องการ สามารถตัดแต่งได้ตลอดกระดูกขากรรไกร เนื่องจากสามารถ เปิด แผล ได้ยาวกว่าโดยไม่ต้องคำนึงถึงแผลเป็น จึงทำให้ได้กระดูกกรามที่โค้งเนียนขึ้น

การดูแลหลังการผ่าตัดกราม
 หลังการผ่าตัดใบหน้า จะบวมประมาณ 3 อาทิตย์ ควรนอนพักผ่อนอยู่โรงพยาบาล 2 - 3 วัน เพื่อจะได้ดูแลทำความสะอาดช่องปากได้เต็มที่
 ควรงดอาหารในวันแรกหลังผ่าตัด เพื่อป้องกันเศษอาหารรบกวนแผล
 ระยะแรกไม่ควรทานอาหารแข็ง ควรรับประทานนม น้ำผลไม้ และอาหารอ่อนจนถึงอาหารปกติในที่สุด
 ให้พยายามอ้าปากบ่อย ๆ เพื่อเป็นการขยับข้อต่อขากรรไกร ป้องกันไม่ให้ข้อต่อเกิดอาการฝืดและเพื่อป้องกันกรามยึด
 ใช้นำ้เย็นประคบที่บริเวณแก้มประมาณ 7 วัน
 แผลในปากมักเย็บด้วยไหมละลาย จึงไม่ต้องตัดไหม
 บ้วนน้ำสะอาดบ่อยๆ ช่วยให้คราบเลือดที่แผลหลุดออก
 สายระบายน้ำเหลืองมักใส่ไว้ประมาณ 1 - 2 วัน
 หลังผ่าตัดอาจมีอาการเขียวช้ำบริเวณคอและใต้คาง ในวันที่ 7 หลังผ่าตัดอาจใช้น้ำอุ่นประคบเพื่อลดอาการเขียวช้ำได้
 จะเข้าที่ภายใน 2 - 3 อาทิตย์ แต่ยังมีอาการบวมที่มุมกรามเป็นเวลา 1 - 2 เดือน
 ถ้าเป็นการผ่าตัดภายในช่องปาก จะต้องฝึกอ้าปาก เพื่อป้องกันการเกิดพังผืดรอบๆ กราม และใกล้กับข้อขากรรไกร

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
การผ่าตัดกราม มีผลข้างเคียงนอกจากที่กล่าวไปแล้วน้อยมาก เช่น การติดเชื้อบริเวณ แผล ผ่าตัด หรืออาการบวมมากผิดปกติ ซึ่งก็มีวิธีการรักษาเฉพาะกรณีไป

ข้อมูลเพิ่มเติมคุณสามารถติดต่อ ฝ่ายการตลาดภาษาไทยได้ที่ : osias05@hotmail.com;  หรือโทรศัพท์มือถือ: 0869803680 (DTAC), 0812552755 (AIS),  Tel: (02) 753-9206, หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา:www.jutasurgery.com

No comments:

Post a Comment